ลิโอเนล เมสซี่ ไม่เพียงพา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้าแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส เป็นสมัยที่ 11 แต่ประตูของเขาในเกมเสมอ สตราส์บูร์ก 1-1 ยังทำให้แซง โรนัลโด้ ขึ้นมาอยู่ที่ 496 ลูก มากสุดใน 5 ลีกดังของยุโรปแล้ว
ช่องทางการติดต่อเรา แอดมินให้คำปรึกษาตลอด24ชั่วโมง
Hotline:(TH)0946805717-0617407805
LINE ID:SNOW.046
Page:Snow45 TH สปอร์ตเดย์ลี่
Page:กีฬา-เดลี่
Live chat ติดต่อเราด้านหน้าเว็บไซต์
SNOW45 ยินดีให้บริการ ขอให้ลูกค้าทุกท่าน เฮงๆรวยๆ ปังๆจ้า
ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์สร้างสถิติใหม่ให้กับอาชีพการค้าแข้งของตัวเอง เมื่อกลายมาเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ที่จำนวน 496 ลูก แซงหน้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หัวหอก อัล-นาสเซอร์ ไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากทำเพิ่มอีก 1 ประตู ในเกมที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง บุกไปเสมอ สตราส์บูร์ก 1-1 ในศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ประตูเดียวของ กัปตันทีมชาติ อาร์เจนติน่า แม้จะโดนเจ้าถิ่นตามตีเสมอ แต่หนึ่งแต้มก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้แชมป์กับ เปแอสเช สองสมัยติด นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม และทำให้สโมสรดังแห่งเมืองหลวงน้ำหอมการันตีโทรฟี่สมัย 11 มากสุดในลีกเวลานี้แล้ว โดยที่ยังเหลือการแข่งขันอีก 1 เกม ไม่เพียงเท่านั้น ศูนย์หน้าวัย 35 ปี ยังขึ้นแท่นยิงมากสุดใน 5 ลีกดังของยุโรป ซึ่งมี อังกฤษ, สเปน, อิตาลี, เยอรมนี และ ฝรั่งเศส ด้วย
โดย แข้งแชมป์โลก ผ่านการเล่นให้กับ บาร์เซโลน่า ในเกม ลาลีกา สเปน มาทั้งหมด 520 นัดทำไป 474 ประตู บวกกับ เปแอสเช อีก 57 นัด ทำไป 22 ประตู รวม 496 ลูก ขณะที่ ดาวยิงโปรตุกีส ทำไป 103 ประตู ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษสองรอบ, 311 ประตูกับ เรอัล มาดริด ในลีกกระทิง และ 81 ประตูกับ ยูเวนตุส ในเซเรีย อา รวมแล้ว 495 ลูก
นอกจากนี้ ถ้วยรางวัลล่าสุดกับ เปแอสเช จะเป็นใบที่ 43 ในอาชีพของ เมสซี่ มากสุดเท่ากับ ดานี่ อัลเวส อดีตเพื่อนร่วมทีม บาร์ซ่า ด้วย ในทางตรงกันข้าม คู่แข่งอย่าง โรนัลโด้ ได้เพียง 34 ถ้วยเท่านั้น และตอนนี้ความหวังของเขาที่จะพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ โปรลีก ซาอุดิอาระเบียได้หมดลงแล้ว หลังทีมบุกไปไล่ตีเสมอ อัล-อิตติฟัก 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม
หนึ่งแต้มที่ได้ทำให้ อัล-นาสเซอร์ มีเพิ่มเป็น 64 คะแนน จาก 29 นัด ตามหลัง อัล-อิตติฮัด ทีมจ่าฝูง 5 แต้ม ขณะที่เหลือการแข่งขันอีกเพียง 1 นัด แต้มไม่พออย่างแน่นอนแล้ว ส่งผลให้เป็นซีซั่นแรกที่ล้มเหลวในดินแดนเศรษฐีน้ำมัน แม้จะย้ายทีมมาด้วยค่าตัวที่สูงถึงปีละเกือบๆ 200 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 7,400 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นค่าจ้างที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลเลยทีเดียว
Comments