top of page
รูปภาพนักเขียนsnow45th

'เรือใบ' ไม่สนโดนนำก่อน เดินหน้าไล่ขยี้ 'หงส์แดง' เละ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังโชว์ฟอร์มแกร่งในรัง แม้ไม่มี เออร์ลิง ฮาแลนด์ ถูก ลิเวอร์พูล ยิงนำก่อน แต่บุกเข้าใส่แซงเอาชนะไปได้แบบขาดลอย 4-1 ตาม อาร์เซน่อล จ่าฝูงอย่างไม่ลดละเหลือ 5 แต้ม แข่งเท่ากัน เกมบิ๊กแมตช์ ศึกพรีเมียร์ลีก


ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022-2023 เกมบิ๊กแมตช์ ประจำวันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2023 ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นการเจอกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่รั้งรองจ่าฝูง มี 61 คะแนน จาก 27 นัด ตามหลัง อาร์เซน่อล จ่าฝูงอยู่ 8 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด เกมลีกล่าสุด บุกเฉือน คริสตัล พาเลซ 1-0 คว้าชัยสามนัดติด เกมนี้เปิดบ้านรับการมาเยือน ลิเวอร์พูล ที่บุกไปพ่าย บอร์นมัธ แบบพลิกล็อค 0-1 มีอยู่ 42 คะแนน จาก 26 นัด รั้งอันดับ 6 ของตาราง นัดนี้เจ้าถิ่นไม่มี เออร์ลิง ฮาแลนด์ ที่ได้รับบาดเจ็บลงสนาม


ชองทางการติดต่อเรา แอดมินให้คำปรึกษาตลอด24ชั่วโมง

Hotline:(TH)0946805717-0617407805

LINE ID:SNOW.046

Page:Snow45 TH สปอร์ตเดย์ลี่

Page:กีฬา-เดลี่

Live chat ติดต่อเราด้านหน้าเว็บไซต์

SNOW45 ยินดีให้บริการ ขอให้ลูกค้าทุกท่าน เฮงๆรวยๆ ปังๆจ้า




GOAL นาที 17 หงส์แดง ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดิเอโก้ โชต้า หลุดกับดักลำหน้า พาบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษด้านขวาแต่ไม่มีจังหวะยิง เพราะ มานูเอล อาคานจี แนวรับเจ้าถิ่นดักเอาไว้ แต่บอลมาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายตูมเดียวเข้าประตูไปอย่างเฉียบขาด



GOAL นาที 27 เรือใบสีฟ้า ตามตีเสมอเป็น 1-1 จากจังหวะขึ้นเกมทางด้านขวา ริยาด มาห์เรซ จ่ายเข้ามาให้กับ อิลคาย กุนโดกัน หน้ากรอบเขตโทษ ไหลบอลเร็วเข้าไปในเขตโทษด้านซ้ายให้ แจ็ค กรีลิช ปาดบอลมาหน้าประตู ฮูเลียน อัลวาเรซ แปด้วยขวาง่ายๆเข้าไป หมดสิทธิ์ที่ อลิสซง เบ็คเกอร์ นายทวารทีมเยือนจะป้องกันเอาไว้ได้ จากนั้นทั้งสองทีมยังทำเกมรุกเข้าใส่กันอย่างสนุก แต่ไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกยังคงเสมอกันอยู่ 1-1


GOAL นาที 46 ซิตี้ แซงขึ้นนำ 2-1 ลงมาเล่นในครึ่งหลังไม่ถึงนาทีเจ้าบ้านได้ประตูอย่างรวดเร็ว บอลโยนมาทางด้านขวา ริยาด มาห์เรซ ใช้ความเร็วถึงในเขตโทษก่อน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แล้วเปิดบอลไปที่หน้าประตู อลิสซง เบ็คเกอร์ ออกมาปัดบอลไม่ทัน เควิน เดอ บรอยน์ แปเข้าไปแบบโล่งๆ


GOAL นาที 53 เจ้าถิ่น หนีออกไปเป็น 3-1 ฮูเลียน อัลวาเรซ ได้บอลในเขตโทษแตะหลบ ฟาบินโญ่ แล้วซัดด้วยซ้าย บอลไปตรงตัว เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แหย่สกัดออกมา แต่ยังไม่พ้นอันตราย อิลคาย กุนโดกัน เก็บบอลเอาไปได้แตะด้วยขวาแลัวซัดตามเข้าไป


GOAL นาที 74 เรือใบ ทำสกอร์ห่างเข้าไปอีกเป็น 4-1 คราวนี้เป็น แจ็ค กรีลิช ให้บอล เควิน เดอ บรอยน์ ทางด้านซ้าย แล้ววิ่งไปหน้าประตู ก่อนที่ กองกลางเบลเยียม จะคืนบอลมาให้ มิดฟิลด์ชาวผู้ดี แปด้วยขวาเข้าไป อลิสซง เบ็คเกอร์ นายด่านทีมเยือนล้มตัวปัดบอลไม่โดน


ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านชนะ ลิเวอร์พล 4-1 มีเพิ่มเป็น 64 แต้ม จาก 28 เกม ไล่ตาม อาร์เซน่อล จ่าฝูงเหลือ 5 แต้ม แข่งเท่ากัน ส่วน หงส์แดง ยังมี 42 แต้ม จาก 27 เกม อยู่ที่ 6 เหมือนเดิม


ผู้เล่นตัวจริง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ระบบการเล่น 4-2-3-1) : เอแดร์ซอน (ผู้รักษาประตู) - จอห์น สโตนส์, มานูเอล อาคานจี, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้ - โรดรี้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน (กัปตันทีม) - ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, แจ็ค กรีลิช - ฮูเลียน อัลวาเรซ


ผู้เล่นตัวจริง ลิเวอร์พูล (ระบบการเล่น 4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ (ผู้รักษาประตู) - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ , แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (กัปตันทีม) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป, ดิโอโก้ โชต้า



ดู 6 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comentarios


bottom of page