การล่มสลายของฟิออเรนติน่า: เดวิด เด เคอา และเพื่อนร่วมทีม จากทีมลุ้นแชมป์เซเรียอาอย่างเหนือความคาดหมาย กลายเป็นทีมที่ย่ำแย่ที่สุดในเซเรียอาภายในเวลาเพียงหนึ่งปี

เมื่อเทศกาลคริสต์มาสใกล้เข้ามา ยังมีอีกสองทีมที่ยังไม่ชนะใครเลยในลีกใหญ่ทั้ง 5 ลีกของยุโรป การที่หนึ่งในนั้นคือวูล์ฟแฮมป์ตันนั้นอาจไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ สโมสรในพรีเมียร์ลีกที่อยู่ภายใต้การบริหารของฟอสุน อินเตอร์เนชั่นแนล ขายผู้เล่นที่ดีที่สุดสองคนในช่วงซัมเมอร์ และใช้เงินที่ได้มาไปกับการเซ็นสัญญานักเตะที่ไม่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม การที่ฟิออเรนติน่ายังไม่ชนะแม้แต่เกมเดียวในเซเรียอาถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจแม้ว่าเราจะมองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่าฟิออเรนติน่าเป็นหนึ่งในเจ็ดทีมยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลอิตาลีในช่วงยุครุ่งเรืองของสโมสร พวกเขาก็จบอันดับที่หกในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าเอซีมิลานทีมจ่าฝูงในปัจจุบัน ความคาดหวังคือฟิออเรนติน่าจะมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นในฤดูกาลที่สองของราฟาเอเล่ ปัลลาดิโน่ที่สนามสตาดิโอ อาร์เตมิโอ ฟรานคีถึงแม้ว่าปัลลาดิโนจะลาออกเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2024-25 แต่สเตฟาโน ปิโอลี ผู้ที่มาแทนที่เขาก็ถูกปลดออกไปแล้ว และผลงานก็ยังไม่ดีขึ้นภายใต้โค้ชคนใหม่ เปาโล วาโนลี ส่งผลให้สถานการณ์ในฟลอเรนซ์เลวร้ายลงอย่างมาก โดยมีผู้เล่นบางคนและครอบครัวของพวกเขาถูกข่มขู่เอาชีวิตจากได้รับการต่อสัญญา กลายเป็นถูกไล่ออกภายในสามสัปดาห์เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมฟิออเรนติน่าได้เปิดเผยว่าสัญญาของปัลลาดิโนกับสโมสรได้รับการต่ออายุออกไปอีกหนึ่งปีจนถึงปี 2027ข่าวนี้ไม่ได้สร้างความประหลาดใจแต่อย่างใด เนื่องจากฟิออเรนติน่าอยู่ในรอบรองชนะเลิศของคอนเฟอเรนซ์ลีก และกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะผ่านเข้ารอบไปเล่นในรายการเดียวกันผ่านทางเซเรียอาอย่างไรก็ตาม ไม่ถึงสามสัปดาห์ต่อมา ปัลลาดิโนก็จากไป โดยแยกทางกับสโมสรด้วย "ความยินยอมร่วมกัน"แม้ว่าเขาจะนำทีมฟิออเรนติน่าจบอันดับที่ดีที่สุดในลีกในรอบเก้าปีก็ตามแม้ว่าจะเป็นความจริงที่ว่าไม่ใช่แฟนบอลทุกคนจะประทับใจในตัวโค้ชวัย 41 ปีและสไตล์การเล่นฟุตบอลของเขา แต่ความขัดแย้งกับผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอย่าง ดานิเอเล่ ปราเด เชื่อกันว่าเป็นสาเหตุที่แท้จริงของการออกจากทีมอย่างไม่คาดคิดของเขา